การเขียนโปรแกรมด้วย Visual Basic (ง่าย ๆ) ตอนที่ 1
รู้จักกับ Visual Studio 2010
1.2
หลักการทำงานของ
Visual Basic
1.3
ส่วนประกอบและหน้าตาของโปรแกรม
1.4
ตัวอย่างโปรแกรมการ ทำงานโดยใช้ VB
1.1 รู้จัก Visual basic และเวอร์ชั่นต่าง ๆ
รูปที่ 1.1 โปรแกรม Microsoft
Visual Studio 2010
Visual Basic เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในการเขียนโปรแกรม
เนื่องจากเป็นภาษาที่เขียนง่าย อ่านคำสั่งแล้วเข้าใจได้ไม่ยาก ทำให้เป็นที่นิยมใช้งานทั่วโลก
และมีเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชันที่ดีคือ Visual Studio ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มีเครื่องมือ เอกสารอ้างอิง เทคนิคใหม่ ๆ
มาช่วยให้นักพัฒนาแอพพลิเคชันทำงานได้ขึ้น
Visual Basic เป็นภาษาที่ผ่านการพัฒนามาหลายเวอร์ชั่น เป็นโปรแกรมที่ประกอบด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย สะดวกและง่าย
โดยมีวิวัฒนาการในการเวอร์ชั่นใหม่ ๆ มาดังนี้
Visual
Basic 5 ถูกเรียกว่า Visual
97 เป็น Visual
Basic ตัวแรก
Visual
Basic 6 อยู่ในชุด VB
Studio ปี 1998 เป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานง่าย ปัจจุบันยังมีผู้ใช้งานอยู่
Visual Studio.net 2002 มีชื่อเต็มว่า .Net
Framwork
Visual Studio.net 2003
Visual 2005 Version 8
Visual Studio.net 2008 Version 9
สามารถ Load ใช้ฟรีได้
Visual
Studio 2010 Version 10
ด้วยเวอร์ชั่นของ VB มีมากมายข้างต้น
จึงทำให้มีลักษณะการเขียนที่มีความแตกต่างกันไปค่อนข้างมาก แต่ยังมีโครงสร้างภาษาที่เหมือนเดิม
โดย Visual Studio 2010 Version 10
นี้ได้แบ่งเป็นหลาย ๆ ภาษาตามความถนัด คือ ภาษา visual Basic ,C# C++ ,Web Developer
รูปที่ 1.2 ภาษาใน Microsoft Visual Studio 2010
ในบทเรียนนี้จะนำเสนอวิธีการใช้โปรแกรม
Visual Studio 2010 ซึ่งจะมีโปรแกรมให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของงาน
โดยแบ่งได้เป็น 3 แบบคือ
1.
Visual
Studio 2010 Professional
2.
Visual
Studio 2010 Premium
3. Visual Studio 2010 Ultimate
รูปที่ 1.3 ชนิดของผลิตภัณฑ์ ของMicrosoft Visual
Studio 2010
1.2 หลักการทำงานของ
Visual Basic
รูปที่ 1.4 การแสดง object
จากรูปด้านบนเราจะเห็นว่า มีองค์ประกอบของ Drive เราเรียกว่า Object ซึ่ง VB ใช้ในการสร้างรูปร่าง
หน้าตาของส่วนประกอบของ Window ในอดีตหากเราต้องการเขียนว่าในส่วนประกอบหน้าต่างมีขนาดเท่าไรคูณเท่าไร
ตัว Scroll Bar สร้างขึ้นมาอย่างไร
หากมีการเขียนในลักษณะที่เป็น Code จะใช้เวลานานในการเขียนโปรแกรม
แต่หากใช้โปรแกรม VB ในการเขียนโปรแกรมแล้ว จะช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
เพราะหลักการทำงานของ VB นั้น มีส่วนสำคัญอยู่ 2 ประการคือ
1. มีการสร้างเป็นลักษณะของหน้าจอ หรือเลเอ้าท์ ขึ้นมาก่อน
2. ส่วนใดที่มี Code ให้ใส่ Code
ในอดีตเวลาที่เราต้องการติดต่อสื่อสารหรือเขียนโปรแกรมเราจะต้องทำงานผ่าน
DOS ซึ่งมีลักษณะการทำงานแบบทีละบรรทัดซึ่งเรียกว่า Procedure
แต่ในปัจจุบันมีการทำงานผ่าน Window ซึ่งมีความแตกต่างออกไป
ตัวของ Window จะมีการทำงานในลักษณะที่เป็น Object คือวัตถุที่มีคุณสมบัติส่วนตัว
หรือเป็นวัตถุที่สามารถเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติ มีคำสั่งที่ใช้ในการทำงานแตกต่างกัน ในที่นี้เราจะมาเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติว่าเป็นอย่างไร
หรือคุณสมบัติและตัวของฟังก์ชั่นและ Method เป็นอย่างไร
ทดสอบความเข้าใจ
1. ให้นักศึกษาเปิดหน้าต่าง
window/my computer หากเราเอาเม้าส์ไปวางไว้ที่ Drive C (over) ที่ไดร์ฟ เราจะพบกับคุณสมบัติ ว่ามีพื้นที่เหลือเท่าไร พื้นที่รวมเท่าไร
2. คลิกขวา
Properties
จะเห็นว่าสิ่งที่เห็นทุกอย่างในรูปจะเป็น Object ทั้งหมด
1.3 ส่วนประกอบและหน้าตาของโปรแกรม
เมื่อได้ทำการติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว เราจะมาดูว่าโปรแกรมของ VB มีหน้าตาอย่างไร
และมีวิธีการทำงานอย่างไร ซึ่งจะมีหน้าจอที่ใช้ในการทำงานหลายตัว
1. หน้าจอนี้สำหรับการเลือก Tool ที่จะใช้ในการทำงานซึ่งได้ผ่านการติดตั้งมาแล้ว
ซึ่งเราจะใช้ภาษา Basic หรือ C# หรือตามความต้องการได้
แต่ในที่นี้เราจะใช้ Basic
2. ที่หน้าต่าง Visual Studio 2010 เลือก Visual Basic
Development Settings/เลือก Start visual Studio (Professional
และ Ultimate ความสามารถของโปรแกรมที่ต่างกัน)
3. เข้าสู่หน้าต่างต้อนรับเข้าสู่ VB ที่ด้านซ้ายมีคำสั่ง New Project และ Open Project ด้านขวามือเป็นการแสดงรายละเอียด
Close Page After
Project Load หมายถึง
โชว์ทุกครั้งหรือไม่
Show Page on
Startup หมายถึง หลังจากเริ่มทำงานหน้านี้จะปิดไป
4.
เลือก
New Project เพื่อเข้าไปดูองค์ประกอบของระบบ
5.
เลือก
template Windows form Application
ุ6.
ที่
Name ให้ทำการตั้งชื่อ
form ชื่อ Test หรือ Application จากนั้น ตอบ OK (ถ้าหน้าจอไม่ ปิด ที่ส่วนของ StartPage
จะมีปุ่มกากบาท ให้คลิกปิด)
8. ส่วนประกอบของหน้าจอประกอบด้วย
Menu Bar ,Icon Bar ส่วนบนสุดเป็นชื่อ form
9.
คลิกที่เมนู File จะเป็นกลุ่มคำสั่งของการ save , open การ add ฯลฯ
10. เมนู Edit จะเป็นเมนูที่ใช้ในการ
Copy การ
Paste , การค้นหา การแทนที่ค่า
11. เมนู View จะเป็นเมนูเรื่องของมุมมอง เช่นต้องการเปิดหน้าต่างบางหน้า
หรือบางหน้าต่าง ถูกปิดไปเราสามารถเปิดได้จากเมนูนี้ เช่น การใช้ Shift+ F7 คือการเปิดหน้าจอ Design (วิธีปิดForm คือ คลิกเครื่องหมายกากบาทที่ด้านบนของ FormVB[Design]
12. เมนู Project ใช้ในการ Add form, Control,Component
13. เมนู Build เป็นเมนู ที่ใช้ในการสร้างข้อความ การแก้ไข การ Clear
14.
เมนู
Debug ใช้ในการตรวจสอบโปรแกรม
15. ด้านซ้ายมือ
จะมี Tool Box ซึ่งจะมีหน้าต่างย่อย
ๆ (ซ้ายสุด) All window form ซึ่งจะประกอบไปด้วยปุ่มต่าง ๆ
เช่น List box, Combo box, เราสามารถคลิกนำออกมาสร้างได้เลย
16.
ที่
Data Sources
17.
สามารถปักหมุดได้
ในกรณีที่ต้องการให้แสดงผล ในกรณีที่เราต้องการให้เปิดขึ้นมา
18. ในส่วนของ Control จะมีอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็น Control และส่วนที่เป็น Components 1.ส่วนที่เป็น control ได้แก่ ListBox ComboBox
2. ส่วน Component คือส่วนที่มองไม่เห็น เช่น ตัวจับเวลา ตัวปิด File
19.
โครงสร้างของโปรแกรม
VB จะประกอบด้วย 2
ส่วนหลักคือ
1. การออกแบบหน้าจอ
2. การเขียนโค้ด (Code)
1.
ดึง
Label มาที่ Form1
2. ขวามือ จะมี Solution explorer เป็นหน้าจอที่ใช้ในการแสดงหรือบอกรายละเอียดว่าในฟอร์มนี้มีอะไรบ้าง
จะประกอบด้วย
Property
คือแสดงคุณสมบัติ
Show all file หมายถึง
แสดงรายละเอียดทั้งหมดของฟอร์ม
Refresh ใช้แสดงในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่นการเพิ่ม Object ต่าง ๆ
View Code การเปลี่ยนมุมมอง Code
View Design
การเปลี่ยนมุมมองเป็น Design
1.4 ตัวอย่างโปรแกรมการทำงานโดยใช้ VB
เราจะมาทำการสร้างโปรแกรมที่
มีปุ่มคลิกเพื่อให้แสดงข้อความขึ้นมา โดยใช้เพียงแค่ปุ่มเดียว แต่ให้มีการ Event
ในการการทำตามโค้ดที่เราเขียนขึ้นโดยจะมีตัวอย่างให้ประมาณ 4 รูปแบบ คือ 1.คลิกปุ่มเพื่อให้แสดงข้อความ 2.
คลิกเพื่อให้แสดงบนฟอร์มทันที 3.คลิกที่ฟอร์มบริเวณใดก็ได้
4. การเขียนโค้ดโดยใช้ Event โดยการดับเบิ้ลคลิก
วิธีทำ
1.
New Project
คลิกเลือก
Windows Form Application
2.
จะได้ฟอร์มเปล่าพร้อมออกแบบ
3.
เลือกคลิกคอนโทรล
Button และปรับขนาด
โดยปุ่มนี้เมื่อคลิกจะแสดงข้อความว่า Hello
4.
กด
F5 แต่ยังทำงานไม่ได้
หรือยังไม่มี Method
5.
ที่
Property ไปเปลี่ยน
Button1 ที่ Text
เปลี่ยนให้เป็น Click แล้ว Enter
6.
ที่
Name คือชื่อของปุ่ม
หรือชื่อของ Control มีความสำคัญมากเพราะเป็นตัวที่ต้องรับ Code
ถ้าจะดู Properties ของตัวไหนคลิก object ตัวนั้น
7.
คลิกเลือกปุ่ม
Click และ Double
Click เขียน Code ซึ่งเราสามารถเปลี่ยน Event ของปุ่มได้โดยคลิกที่ Click
จะมี List ให้เลือก ในที่นี้จะให้ใช้ Click
เพื่อแสดงข้อความ hello หรือ Message
Box
8.
เขียน
Code ดังนี้
9.
กด
F5 คลิกปุ่ม Click
1 ครั้ง
ได้ผลลัพธ์ดังรูป
10.
วิธีที่
2 คือให้ Hello บนหน้าฟอร์ม ไม่จำเป็นต้องเป็นปุ่ม
11.
ให้ปิดหน้าฟอร์มที่ปุ่มกากบาทเพื่อจะไปทำการเขียนโค๊ด
12.
ให้ทำการลบ
Code ทิ้งก่อน
13. กลับไปที่
Form ทำการลบปุ่ม Click
14. เราจะให้แสดงขึ้นมาอย่างเดียว
และเมื่อคลิกก็จะแสดง Message Box
ขึ้นมา ตัวของ Form สามารถ Double
Click เพื่อเขียน Code โดยมี Event คือการ Load
15.
พิมพ์
Code ดังนี้
16. กด F5 สังเกตว่าหน้าจอจะหายไป (แบบที่ 2 คลิกแสดงบนฟอร์มทันที)
17.
เปลี่ยน
Event ให้คลิกฟอร์ม
วิธีที่ 3 ไม่เอา Event/เลือก Load /เลือก Click
18.
กด F5 คลิกบริเวณไหนก็ได้ ของ
Form
20.
ให้เขียน
Code โดยในที่นี้เราจะไม่ลบโค๊ดด้านบนทิ้ง
คือให้ใช้ได้ทั้ง Click และ Double Click
21.
กด
F5 /เราสามารถ คลิก
1 ครั้ง หรือ 2 ครั้ง ก็สามารถแสดงผลได้เช่นกัน
Note:กรณีที่เครื่องมือ
Toolbox หาย ให้ไปที่เมนู Window/Reset window layout
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น